คงคุณค่าน้ำนมแม่ ด้วยการเก็บรักษาที่ถูกวิธี

คงคุณค่าน้ำนมแม่ ด้วยการเก็บรักษาที่ถูกวิธี
คุณแม่ทุกท่านทราบดีอยู่แล้วว่าการเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่นั้นดีที่สุดสำหรับลูกน้อย ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานร่างกาย โดยเฉพาะการให้ลูกกินนมจากเต้า ในกรณีที่คุณแม่ต้องทำงานประจำไม่ได้อยู่กับลูกตลอดเวลา แต่อยากให้ลูกน้อยได้กินนมแม่นานที่สุด สามารถใช้วิธีการปั๊มนมเก็บสต็อคได้ ซึ่งสามารถเก็บได้นานถึง 6 เดือน (อายุนานแค่ไหนขึ้นอยู่กับวิธีการเก็บรักษา) คุณแม่หลายคนสงสัยว่าจะเก็บน้ำนมอย่างไรให้ใช้ได้นานและคงคุณค่าทางอาหารไว้ได้มากที่สุด Baby Castle มีคำตอบค่ะ

1. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับการปั๊มนม

  • เครื่องปั๊มนม 

ความจริงแล้ว มือของคุณแม่เองก็สามารถใช้ปั๊มนมได้ แต่เครื่องปั๊มนมจะช่วยให้ปั๊มนมได้สะดวกขึ้น ใช้เวลาไม่มากและได้ปริมาณน้ำนมมากกว่าการปั๊มด้วยมือ เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ต้องทำงานประจำ

  • ถุงเก็บน้ำนม

ควรเลือกแบบที่ผลิตจากพลาสติกใช้สำหรับบรรจุอาหาร *สังเกตจากตราสัญลักษณ์ Food Safe (ไอคอนรูปแก้วไวน์กับส้อม) ปลอดภัยจากสารฟินอล มีซิปที่ปิดสนิท มีแถบวัดปริมาตรและช่องจดบันทึกวัน เวลา เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

  • อุปกรณ์ละลายน้ำนม

การนำน้ำนมแช่แข็งมาละลายมีทั้งการใช้เครื่องอุ่นนม และใช้วิธีการนำถุงนมมาแช่หรือแกว่งในน้ำอุ่น หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนจัด และไม่ควรอุ่นนมด้วยไมโครเวฟ เพราะนมจะร้อนเกินไป รวมถึงอาจจะทำให้สูญเสียคุณค่าทางอาหารในน้ำนมด้วย

2. การปั๊มนมด้วยเครื่องปั๊มนม

ช่วงเช้าเป็นเวลาที่ดีในการปั๊มนม เพราะร่างกายแม่จะผลิตน้ำนมได้มากที่สุด ในช่วงแรกอาจจะปั๊มนมได้ไม่เยอะ แต่ควรปั๊มอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้น้ำนมไหลเพิ่มได้ การปั๊มนมที่เหมาะสม เริ่มแรกควรปั๊มนมให้ได้ 8 – 10 ครั้งต่อวัน โดยแต่ละครั้งใช้เวลา 10 – 15 นาทีต่อข้าง พอร่างกายปรับตัวได้แล้วอาจลดจำนวนการปั๊มลงเหลือ 5 – 7 ครั้งต่อวัน และควรปั๊มนมให้เกลี้ยงเต้าทุกครั้ง เพื่อช่วยให้น้ำนมผลิตได้เร็วขึ้น

3. การเก็บรักษาน้ำนมแม่

เก็บรักษาน้ำนมอย่างไรให้คงคุณค่าทางอาหาร 
เริ่มจากการเก็บน้ำนมในภาชนะที่สะอาดผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน ปิดฝาถุงให้สนิท จดบันทึกวันเวลาที่ปั๊มนมไว้บนถุงน้ำนมด้วย สถานที่เก็บรักษาน้ำนมที่ดีที่สุดคือตู้เย็นที่ไม่มีอาหารอื่นเจือปน และอุณหภูมิของที่เก็บเป็นปัจจัยหลักบอกระยะเวลาว่าสามารถเก็บน้ำนมได้นานแค่ไหน สามารถดูได้ตามตารางเลยค่ะ

*น้ำนมที่ละลายน้ำแข็งจากการแช่แข็งแล้ว ไม่ควรนำไปแช่แข็งซ้ำอีกครั้ง