อาการแพ้ท้อง เป็นอาการที่เกิดในหญิงตั้งครรภ์ มักแสดงอาการในช่วงอายุครรภ์ 3 เดือน โดยส่วนใหญ่จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน วิงเวียนศรีษะ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียมากกว่าปกติ คนท้องส่วนใหญ่จะรู้สึกแพ้ท้องมากช่วงตื่นนอนตอนเช้าและจะยิ่งแพ้ท้องหนักเมื่อท้องว่างมากเป็นพิเศษ คุณแม่แต่ละคนจะมีอาการแพ้ท้องรุนแรงไม่เท่ากัน บางคนแค่ผะอืดผะอม บางคนคลื่นไส้อาเจียน ในขณะที่บางคนรุนแรงมาก ทานอะไรไม่ได้ ตาลึกโบ๋ ปากแห้ง ปัสสาวะน้อย ถ้ามีอาการแพ้รุนแรง ควรพบหมอโดยด่วน
![](https://babycastlethailand.com/wp-content/uploads/2020/08/Content-อาการแพ้ท้องในคุณแม่-06-1-1500x996.jpg)
1. อยากอาเจียน คุณแม่จะรู้สึกอึดอัดหน้าท้องและหน้าอก จนอยากอาเจียน และจะทรมาน
มากเมื่ออาเจียนตอนท้องว่าง
2. เหม็นไปหมด อาการนี้เกิดขึ้นเนื่องจากระบบประสาทอัตโนมัติไม่มั่นคง ทำให้คุณแม่อาจ
รู้สึกไม่สบายในทันทีเมื่อได้กลิ่นเหม็น ๆ เช่น กลิ่นอาหารต่าง ๆ กาแฟกลิ่นน้ำหอมที่เคย
ชอบกลับไม่ชอบ เป็นต้น
3. ปวดแสบลิ้นปี่ ในช่วงที่คุณแม่มีอาการแพ้ท้องและอาเจียนบ่อย ๆ อาจมีอาการอักเสบ
บริเวณลิ้นปี่เกิดขึ้นตามมาได้เพราะน้ำย่อยที่อาเจียนออกมาทำให้แสบหลอดอาหารและ
คุณแม่อาจมีความรู้สึกขมที่ลิ้น เจ็บปวดในอก และอาจกระจายถึงคอ จนเป็นสาเหตุทำให้
เกิดอาการเจ็บคอและมีอาการไอเรื้อรังได้ นอกจากนี้อาการปวดแสบลิ้นปี่ยังอาจเกิดจาก
การที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อเรียบคลายตัว ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดของ
หลอดอาหารได้รับผลกระทบ จึงอาจมีน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหารและระคาย
เคืองหลอดอาหารจนทำให้คุณแม่รู้สึกแสบที่ลิ้นปี่ได้
![](https://babycastlethailand.com/wp-content/uploads/2020/08/Content-อาการแพ้ท้องในคุณแม่-03-3-1500x996.jpg)
4. เหนื่อยง่าย รู้สึกเหน็ดเหนื่อย อยากนอนตลอดเวลา เนื่องจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่
สูงขึ้นมีผลทำให้กล้ามเนื้อในร่างกายคลายตัวเหมือนยากล่อมประสาท ภายในร่างกายมี
การเผาผลาญอาหารไปสู่ทารกน้อยมากขึ้น ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงและสูญเสีย
พลังงานมากขึ้น คุณแม่จึงควรพักผ่อนเยอะ ๆ
5. ง่วงนอนตลอดเวลา คุณแม่บางคนอาจจะรู้สึกว่าร่างกายเหนื่อยล้า นอนเท่าไรก็ไม่เต็ม
อิ่ม
![](https://babycastlethailand.com/wp-content/uploads/2020/08/Content-อาการแพ้ท้องในคุณแม่-05-1-1500x996.jpg)
6. อยากกินอะไรแปลกๆบางครั้งคุณแม่อาจอยากกินอาหารแปลก ๆ เช่น อาหารที่มีรส
เปรี้ยวอย่างมะม่วง มะกอก มะดัน ฯลฯ หรือจู่ ๆ ก็ไม่สามารถกินของที่ตัวเองเคยชอบได้
และบางครั้งก็อยากกินของที่ไม่เคยชอบอย่างมาก แต่คุณแม่บางรายก็ไม่อยากจะกินอะไร
เลยก็มี ซึ่งอาจเป็นเพราะมีอาการขมเฝื่อนในปาก เพราะร่างกายเปลี่ยนไป ทำให้กินอาหาร
ไม่อร่อย
![](https://babycastlethailand.com/wp-content/uploads/2020/08/Content-อาการแพ้ท้องในคุณแม่-04-1-1500x996.jpg)
7. อารมณ์แปรปรวน รู้สึกหงุดหงิด และอาจปวดศีรษะบ่อยขึ้น แต่ไม่รุนแรงมากนัก
![](https://babycastlethailand.com/wp-content/uploads/2020/08/Content-อาการแพ้ท้องในคุณแม่-07-1-1500x996.jpg)
![](https://babycastlethailand.com/wp-content/uploads/2020/08/Content-อาการแพ้ท้องในคุณแม่-08-1-1500x996.jpg)
1. ดื่มน้ำมากๆ ในช่วงที่ท้องควรดื่มน้ำมากๆ หรือว่าเท่าที่จะมากได้ เพราะว่าการดื่มน้ำนั้นจะ
ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งน้ำที่แนะนำนั่นอาจจะเป็นน้ำเปล่า น้ำผลไม้
จะดีที่สุดค่ะ และควรดื่มน้ำก่อนและหลังรับประทานอาหารประมาณ 30 นาที และไม่ควร
ดื่มน้ำร่วมกับการรับประทานอาหารหรือหลังอาหารในทันที
2. ไม่ควรปล่อยให้ท้องว่าง คุณแม่อาจจะหาวิธีการโดยนำขนมติดตัว และกินไปเรื่อยๆ เช่น
ขนมจำพวกถั่วขนมที่ทำจากถั่วเหลือง เพื่อป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนที่จะเกิดขึ้นขณะ
ท้องได้
3. พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพออาจทำให้เกิดอาการแพ้ท้องได้
ง่าย เพราะอาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้คุณแม่รู้สึกเวียนหัวได้ง่าย เทางที่ดีควรเข้านอนตั้งแต่
หัวค่ำ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ดีกว่า
![](https://babycastlethailand.com/wp-content/uploads/2020/08/Content-อาการแพ้ท้องในคุณแม่-09-1-1500x996.jpg)
4. หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด คุณแม่ควรพยายามอย่าเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่ร้อนอบอ้าว
อากาศไม่ถ่ายเท เพราะจะทำให้คุณแม่เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ง่าย ถ้าคุณแม่ต้อง
ออกไปทานข้าวนอกบ้านก็พยายามหลบแดดหน่อยค่ะ หรืออาจจะพกร่ม พัด ยาดม และ
ลูกอมติดตัวไว้ก็ได้
5. หลีกเลี่ยงอาหารมัน ทอด รสจัด อาหารบางประเภทที่อาจไปกระตุ้นระบบการย่อย
อาหารให้ผิดปกติ และทำให้รู้สึกอยากอาเจียนได้ง่ายขึ้น เช่น อาหารไขมันสูง อาหารทอด
อาหารรสจัด หรือมีกรดสูง เปลี่ยนมาเป็นการรับประทานอาหารที่อุดมด้วยโปรตีนสูง และวิ
ตามินบี 6 ที่มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการแพ้ท้องให้น้อยลง
6. เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเน้น วิตามินบี 6 อาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี ซึ่งพบมาก
ในอาหารประเภทผลิตภัณฑ์นม เนื้อสัตว์ตับ ไข่ ปลา สัตว์น้ำประเภทมีเปลือก ถั่ว พืช
ประเภทถั่ว ข้าวโพด ผลไม้ผักสด และอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ขนมปัง หรือ
ขนมปังกรอบ เป็นต้น
![](https://babycastlethailand.com/wp-content/uploads/2020/08/Content-อาการแพ้ท้องในคุณแม่-10-1-1500x996.jpg)
7. พยายามอย่าเครียด เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์มีภาวะเครียด ร่างกายจะหลั่งสารเคมีและ
ฮอร์โมนที่เกิดจากความเครียด(อะดรีนาลิน) ออกมามากขึ้น ส่งผลให้เสี่ยงต่อภาวะแท้งใน
คุณแม่ที่อายุครรภ์น้อย ทารกในครรภ์มีโอกาสติดเชื้อสูงและเติบโตช้า เนื่องจากเส้นเลือด
ที่ไปเลี้ยงมดลูกและรกเกิดการหดตัว ทำให้ออกซิเจนที่ส่งไปยังทารกลดน้อยลง
8. สวมเสื้อผ้าที่สบายตัว คุณแม่ขณะตั้งครรภ์จะมีรูปร่างที่เปลี่ยนไปตามขนาดของท้องที่
ขยายใหญ่ขึ้น ทำให้รู้สึกอึดอัด จึงควรเลือกสวมเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าใส่สบาย พอดีกับหุ่นและ
ขนาดท้อง จะทำให้คุณแม่รู้สึกมั่นใจและสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันด้วย